Fatal Frame II : Crimson Butterfly

วันนี้ก็ขอแนะนำเกมส์สุดโปรดของผมเกมส์หนึ่ง เกมส์นั้นก็คือ Fatal Frame 2 นั้นเอง เป็นภาคภาษาอังกฤษ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Zero II ของภาคภาษาญี่ปุ่น (เป็นเกมส์เดี่ยวกัน แต่เรียกแตกต่างกัน คล้ายๆกะ Resident Evil เป็นชื่อภาษาอังกฤษ หรือมีชื่ออีกหนึ่งชื่อคือ Biohazard นั้นเอง แตกต่างกันแค่ภาษา)

ข้อควรระวังของเกมส์นี้คือ “พวกจิตอ่อน หรือเป็นโรคหัวใจห้ามเล่นโดยเด็ดขาด” เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับเกมส์นี้เกี่ยวกับผีแทบทั้งสิ้น โดยเนื้อหาหลักๆของเกมส์นี้ก็คือ ตัวละครหลักจะใช้กล้องในการกำจัดวิญญาณในเกมส์ แล้วค่อยๆคลี่คลายปริศนาในเกมส์ที่ละ Chapter ไปเรื่อยๆจนจบเกมส์ แล้วปริศนานั้นก็ชวนให้ผู้เล่น เล่นจนไม่ยอมวางมือเลยที่เดียว โดยเกมส์สามารถผสมผสานความน่ากลัวบรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆออกมาผ่านเกมส์นี้ได้ดีเลยทีเดียว

ผมเลือกภาค 2 มานี้เพราะเนื้อเรื่องของภาค 2 นี้น่าสนใจที่สุดในบรรดา Fatal Frame ทั้งหมดที่ผมเคยเล่นมา โดยใช้ชื่อเรื่องว่า Fatal Frame II : Crimson Butterfly หรือ 零〜紅い蝶〜

เนื้อเรื่องโดยย่อ
มีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชื่อมินาคามิ ได้แอบทำพิธีลับๆกันภายในหมู่บ้าน เพื่อทำกันปิดผนึกประตูนรกไม่ให้วิญญาณร้ายออกมาสู่โลกมนุษย์ โดยพิธีนั้นต้องใช้เครื่องสังเวยเป็นฝาแฝดเท่านั้น โดยให้ฝาแฝดคนที่เกิดหลัง(ตามทำเนียมในหมู่บ้านถือว่าเป็นพี่) ฆ่าฝาแฝดคนที่เกิดก่อน พิธีกรรมนี้ได้สืบทอดกันมาเรื่อยๆจนถึงคู่ฝาแฝดของ ซะเอะ กับ ยะเอะ ได้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นก่อนทำพิธีบูชายัญต์ คือฝาแฝดพากันหลบหนีออกจากหมู่บ้าน ทั้งคู่หนีไปด้วยกัน แต่ระหว่างที่วิ่งหนีนั้น ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของซะเอะ ทำให้ผลัดตกลงมาจากหน้าผาแล้วถูกชาวบ้านจับมา โดยนักบวชตกลงกันว่าจะทำพิธีโดยใช้แค่คนเดียว นั้นเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง ไม่สามารถผนึกประตูนรกได้ ทำให้วิญญาณอาฆาตของซะเอะกลับขึ้นมาแล้วฆ่าผู้คนในหมู่บ้านตายทั้งหมดจนกลายเป็นหมู่บ้านร้าง แล้วถูกลบหายไปจากแผนที่…

เวลาผ่านไป 200 กว่าปี
มายุ มิโอะ ฝาแฝดสองพี่น้อง ซึ่งพ่อของพวกเธอได้รับกิจการมาทำเขื่อนบริเวณหมู่บ้านมินาคามิ ทั้งสองคนนี้ต่างก็มีสัมผัสที่หกด้วยกันทั้งคู่ บ่อยครั้งที่พวกเธอมาเล่นกันที่ “ฐานลับ” ที่พวกเธอตั้งกันเองอยู่บริเวณเขื่อน บังเอิญได้ไปเห็นผีเสื้อสีแดงเข้า แล้วนำพาสองฝาแฝดนี้เข้าไปสู่หมู่บ้านที่หายสาบสูญไปนานถึง 200 ปี วิญญาณของซะเอะได้เข้าสิงร่างของมายุผู้เป็นพี่ แล้วพยายามฆ่ามิโอะ โดยเข้าใจว่ามิโอะเป็นยะเอะ พี่ฝาแฝดที่ทิ้งเธอให้ตายอยู่คนเดียวในหมู่บ้านนี้ โดยเนื้อเรื่องในเกมส์ให้เราเล่นเป็นมิโอะเพื่อช่วยมายุที่โดนวิญญาณร้ายของซะเอะสิงอยู่ ออกมาจากหมู่บ้านพร้อมกัน ซึ่งเนื้อเรื่องก็มีจบหลายรูปแบบ ซึ่งท่านสามารถหาคำตอบได้ใน Fatal Frame II : Crimson Butterfly ในเครื่อง Play Station 2 ครับ

สุดท้ายก็ฝากคลิปสั้นๆจาก Fatal Frame II มาให้ชมกัน ว่าน่าเล่นแค่ไหน(ชอบเพลงมากๆเลย) แล้วมีข่าวใหม่มาบอกนั้นคือ ขณะนี้ Fatal Frame 4 ได้ออกจำหน่ายแล้ว (เฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น) ในรูปแบบของเครื่อง Wii พึ่งออกไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้เอง โดยในชื่อเรื่องว่า Fatal Frame IV ~Mask of the Lunar Eclipse~  (零～月蝕の仮面～, Zero ~Tsukihami no Kamen~) หลายๆคนที่เคยเล่น Wii คงอยากลุ้นว่ารูปแบบใหม่ของ Fatal Frame 4 บนเครื่อง Wii นั้น จะออกมาเป็นแบบไหน โดยเฉพาะใช้ Wii Remote ผมได้ข้อมูลมาว่า เนื้อเรื่องของภาค 4 นี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นด้วย ยังไงก็ลองติดตามกันดูนะครับ

Nini หนี่หนี่

Nini หนี่หนี่

”            ทุกฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เด็กๆในปักกิ่งจะได้สนุกสนานไปกับการเล่นว่าวตามกระแสลมที่พัดผ่านเมืองหลวงและรูปแบบของว่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุดชนิดหนึ่งคือ ว่าวนกนางแอ่น ซึ่งกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบหนี่หนี่ โดยปีกของหนี่หนี่เป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าอันไร้ขอบเขต และนำเอาคำอวยพรให้โชคดีในทุกๆที่ที่เธอโบยบินไปถึง

            หนี่หนี่มีความไร้เดียงสาและร่าเริง ถนัดด้านยิมนาสติก เป็นตัวแทนของ Olympic ring สีเขียว”

เอาและ ในที่สุดก็รายงานครบ 5 ตัวแล้ว แต่ละตัวนั้นก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งจีนนั้นก็มีความพิถีพิถันคัดสรรแต่ละตัว ให้มีเอกลักษณ์ของความเป็นจีนแตกต่างกันไป ซึ่งผมรวมถึงผู้คนทั่วโลกก็ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ผ่านเจ้าตัว Mascots นี้เอง หวังว่าทุกๆคนคงถูกใจกับ Mascot ของโอลิมปิคในครั้งนี้ ไม่ตัวใดก็หนึ่งหนึ่งแหละ มีตั้ง 5 ตัว เพื่อนๆชอบตัวไหนกันมั่งละครับ

 

อ้างอิงจาก – Life is a rollercoaster

Yingying หยิงหยิง

 Yingying หยิงหยิง

           “(น่าจะออกเสียงแบบนี้นะ เพราะการอ่าน Pinyin เค้าอ่าน “ying” ว่า “ยิง+อิง” ให้ปลายเสียงขึ้นจมูก)

           หยิงหยิง ออกแบบให้มีลักษณะของละมั่งทิเบต ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะที่อาศัยอยู่บนผืนดินอันกว้างใหญ่ของที่ราบชิงไห่-ทิเบต  และเป็นหนึ่งในสัตว์สงวนชนิดแรกๆของจีน ท่าทางของหยิงหยิงที่คล้ายกำลังก้าวกระโดดแสดงความปราดเปรียว มีชีวิตชีวาของสัตว์ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

นี้ครับ ตัวเป็นๆของละมั่งทิเบต ใครเคยเห็นมั่งเอ่ย (เข้าสวยดีเนอะ)

             การออกแบบเครื่องตกแต่งส่วนศีรษะเป็นส่วนผสมของหลากหลายวัฒนธรรม ทั้งชิงไห่-ทิเบต ซินเกียง และชนกลุ่มน้อยทางจีนตะวันตก หยิงหยิงผู้เฉียบแหลมและแคล่วคล่องว่องไว เป็นผู้นำพาคำอวยพรให้มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงมาสู่ทุกคน

            หยิงหยิงเก่งกีฬาทางลู่และลาน เป็นตัวแทนของ Olympic ring สีเหลือง

            ที่จริงมีการต่อต้านการนำละมั่งทิเบตมาใช้ในการออกแบบค่ะ เพราะในอดีตชาวจีนเข้ายึดครองทิเบตโดยไม่ชอบธรรม ทรมานชาวทิเบต และมีการสังหารละมั่งทิเบตเพื่อเอาขนมาทำเครื่องนุ่งห่มขายแพงๆให้กับบรรดาผู้มีอันจะกินทั้งในจีนและต่างประเทศ แม้ว่าจะมีการประกาศให้เป็นสัตว์อนุรักษ์แล้วก็ยังรัฐบาลจีนก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ขณะนี้มีละมั่งทิเบตเหลืออยู่น้อยมากไม่ถึงแสนตัวค่ะ เนื่องจากยังมีการลักลอบฆ่าอยู่ และที่อยู่อาศัยถูกรุกราน

            หวังว่าการเอาเค้ามาใช้ประโยชน์ในการโปรโมตประเทศครั้งนี้ คงมีการให้ความสนใจกับปัญหาของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้มากขึ้น ”

 

อ้างอิงจาก – Life is a rollercoaster

Huanhuan ฮวนฮวน

Huanhuan ฮวนฮวน

”              พี่ชายของโตของ Fuwa เป็นลูกพระเพลิง ตัวแทนของคบเพลิงโอลิมปิก และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในกีฬานำพาคำอวยพรให้บังเกิดชัยชนะแด่ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ที่ใดที่มีแสงไฟของฮวนฮวน จะสัมผัสได้ถึงการเชื้อเชิญอันอบอุ่นจากปักกิ่งและคำอวยพรจากชาวจีน

              การออกแบบให้ส่วนศีรษะมีลักษณะเป็นเปลวไฟ มีต้นแบบมาจากภาพวาดผนังถ้ำซึ่งเก่าแก่นับพันปีที่ตุนหวง[ซึ่งตุนหวง (Dunhuang) แปลว่า ดวงไฟที่เจิดจ้า เป็นชื่อของเมืองเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมทะเลทรายโกบี เมืองนี้อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 1,900 กิโลเมตร ในอดีตเป็นที่พักแห่งสุดท้ายของนักเดินทางชาวจีนที่จะข้ามทะเลทรายโกบีไปตามเส้นทางสายไหมสู่โลกตะวันตก ขณะนี้เมืองตุนหวงได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นมรดกสถานของโลกไปแล้ว]

              ฮวนฮวนมีนิสัยเปิดเผย เข้ากับคนง่าย และมีความกระตือรือร้น เก่งกีฬาทุกชนิดที่ใช้ลูกบอล เป็นตัวแทนOlympic ring สีแดง ”

อ้างอิงจาก – Life is a rollercoaster

Jingjing จิงจิง

Jingjing จิงจิง

”             แค่เห็นใบหน้าของจิงจิง ทุกคนต่างก็พากันอมยิ้มแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจิงจิงจึงเป็นผู้นำคำอวยพรให้ทุกคนมีความสุขยังทุกๆที่เขาไปเยือน จิงจิงมีความน่ารักและมีเสน่ห์ล้นเหลือ >\\\< เช่นเดียวกับแพนด้าซึ่งเป็นสัตว์สงวนของจีนที่ทุกคนโดยเฉพาะเด็กๆต่างก็พากันหลงรัก

             เครื่องประดับบนศีรษะของจิงจิงออกแบบให้เป็นบัว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดในสมัยราชวงศ์ซ่ง(คศ. 960 – 1234) ซึ่งแสดงถึงป่าไม้เขียวชะอุ่มและความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ นอกจากนี้ จิงจิงยังเป็นตัวแทนของอุดมการณ์ในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่สืบไปด้วย

             จิงจิงมีความใสซื่อและมองโลกในแง่ดี เป็นนักกีฬาที่แข็งแรง และเป็นตัวแทน Olympic ring สีดำ”

อ้างอิงจาก – Life is a rollercoaster

Beibei เป่ยเป่ย

ต่อจากนี้จะเป็นการเริ่มแนะนำ Mascots ในแต่ละตัวนะครับ ว่าสื่อความหมายถึงอะไร และมีที่มาอย่างไร ลองติดตามชมกันดูนะคับ

Beibei เป่ยเป่ย 

”            ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะของปลา และน้ำ ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ เป่ยเป่ยจึงเป็นตัวแทนของคำอวยพรให้มีความเจริญมั่งคั่งยิ่งๆขึ้นไป

           ลักษณะลายเส้นของคลื่นน้ำซึ่งเป็นเครื่องประดับศีรษะ เป็นแบบเดียวกับภาพวาดในสมัยโบราณ

           เป่ยเป่ย มีนิสัยสุภาพและจิตใจบริสุทธิ์ เล่นกีฬาทางน้ำเก่ง เป็นตัวแทน Olympic ring สีน้ำเงิน                           ”

อ้างอิงจาก – Life is a rollercoaster

Mascots Olympic Beijing 2008

เอกลักษณ์ของการจัดการแข่งขันในการแข่งขันกีฬา ไม่ว่าจะเป็นงานไหนต่างก็มีตัวนำโชคหรือที่เรียกกันว่า Mascot อยู่ด้วยทุกงาน โอลิมปิค 2008 ที่ปักกิ่ง ผมคิดว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีตัว Mascots เยอะที่สุดก็ว่าได้ มีตั้ง 5 ตัวแน่ะ ลองมาดูข้อมูลของ Mascots กันดีกว่าคับ ว่ามีความหมายแต่ละตัวยังไงมั่ง

 

“Fuwa หรือ Friendlies เป็น Mascots ประจำโอลิมปิก 2008 มีจำนวน 5 ตัว และมีสีตาม Olympic ring ซึ่งผู้จัดงานกล่าวว่า Fuwa จะเป็นทูตสันถวไมตรีของประเทศจีน ที่จะนำมิตรภาพ สันติภาพและความปรารถนาดี ส่งไปให้เด็กๆทั่วทุกมุมโลก และเชิญชวนทุกคนทั่วโลกเข้าร่วมช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเพื่อนมนุษย์

               Fuwa มีการออกแบบให้เป็นกลุ่มเด็กน่ารักที่เป็นเพื่อนกัน มี 1 คนเป็นตัวแทนของคบเพลิงโอลิมปิก ส่วนที่เหลือจะมีลักษณะของสัตว์ที่เป็นที่นิยมในเมืองจีน คือ ปลา แพนด้า ละมั่งทิเบต และนกนางแอ่น นอกจากนี้ยังแสดงถึงภูมิประเทศของจีน คือ ทะเล ป่า ไฟ ดิน ท้องฟ้า ด้วย

แล้วรู้มั้ยเอ่ยว่าทำไม Fuwa แต่ละตัวถึงมีได้ชื่อแบบนี้

          ชื่อของ Fuwa มีสองพยางค์ที่เป็นคำซ้ำกัน ซึ่งในเมืองจีนเป็นการเรียกชื่อที่ใช้แสดงความเอ็นดูต่อเด็กเล็ก

            และเมื่อนำชื่อของแต่ละตัวมา 1 พยางค์ และนำมารวมกันตามลำดับ จะได้ประโยคว่า ” Bei Jing Huan Ying Ni ” แปลว่า ” Welcome to Beijing” หรือ “ยินดีต้อนรับสู่ปักกิ่ง” นั้นเอง ”

ที่มา : Life is a rollercoaster

สวนสนุกแห่งแรกของประเทศไทย

ใครรู้มั่งเอ๋ย ว่าสวนสนุกแห่งแรกของไทยคือที่ไหน… ผมเชื่อว่าหลายๆคนเฉพาะรุ่นเราๆคิดว่า “แดนเนรมิต” แน่นอน แต่นั้นเป็นคำตอบที่ผิดคับ หลายๆคนคงคุ้นหูกับคำว่า “แฮปปี้แลนด์” แน่นอน แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านั้นแหละ คิดสวนสนุกแห่งแรกของประเทศไทย เราลองมาดูประวัติกันดีกว่า

“สวนสนุกแห่งแรกของประเทศไทยไม่ใช่แดนเนรมิต แต่เป็นสวนสนุกที่ชื่อ แฮปปี้แลนด์ แต่ได้ปิดดำเนินการไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522

แฮปปี้แลนด์ เป็นสวนสนุกกลางแจ้งแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร บริเวณตรงข้ามกับเดอะมอลล์บางกะปิ มีเครื่องเล่นได้แก่ ชิงช้าสวรรค์ รถไฟเหาะ เรือหรรษา ปาเป้า ม้าหมุน ชิงช้า กระดานหก บ้านผีสิง ปัจจุบันปิดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2522 และเปิดเป็นตลาดสดแทน

ถึงแม้สวนสนุกแฮปปี้แลนด์จะปิดดำเนินการไปแล้ว ย่านดังกล่าวก็ยังเรียกว่า แฮปปี้แลนด์ บริษัทที่เป็นผู้บริหารสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังคงสร้างบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมจำหน่ายในทำเลต่างๆ ของกรุงเทพ โดยใช้ชื่อโครงการว่าแฮปปี้แลนด์อยู่”

ที่มา – th.wikipedia.org

คำนี้มีที่มา “เจ้าชู้ประตูดิน”

มีใครสงสัยมั้ยว่า เจ้าชู้…ทำไมต้องประตูดินด้วย ประตูฟ้าไม่ได้เหรอ เผอิญผมได้เจอที่มาของคำนี้จากรายการทีวีพอดี เลยนำความรู้มาฝากเพื่อนๆกัน

“คำนี้มีที่มาวันนี้มีที่ มาที่ไปของคำที่น่าสนใจคำหนึ่ง คำว่า เจ้าชูประตูดิน ครูครับทำไมเจ้าชู้ต้องประตูดินด้วย

 

ก็นี่ไงครับเดี๋ยวผมจะเล่าที่มาให้ฟัง คำว่าเจ้าชู้ประตูดิน ใช้กันมานานแล้ว ที่ต้องเป็นคำว่าต่อว่าประตู ดินก็ เพราะประตูดินในที่นี้ คือประตูศรีสุดาวงศ์ในพระบรมมหาราชวัง เป็นประตูทางเข้าออกเขตชั้นใน ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาหญิงชาว วัง ซึ่งผู้ชายเข้าไม่ได้ หนุ่มๆที่อยากดูสาวชาววังก็ ต้องรอตอนสาวชาววังออกมาจับจ่าย ซื้อหาข้าวของนอก ประตูถึงจะได้เห็น แต่จะไปเกี้ยวแบบเดินไปขอเบอร์แบบเดี๋ยวนี้ไม่ได้นะ เพราะเค้ามีคนมาเฝ้า และที่หน้าประตูก็มีโขลน หรือตำรวจวัง ด้วย สุ่มสี่สุ่มห้เดินทะเล่อทะล่าเข้าไปจีบ เดี๋ยวเป็นไปโดนดี คราวนี้พอสาวชาววังออกมา หนุ่มๆก็จะไปคอยดักดูอยู่แถวหน้าประตูดินที่ว่านี่ แหละหวังจะทำความรู้จักด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่าเจ้าชู้ประตูดินนั่นเอง แถมบางครั้ง มีสร้อยคำต่อท้ายด้วยว่า

“เจ้าชู้ประตูดิน หมูหมาเกี้ยวสิ้นไม่เลือกหน้า”

“

 

ที่มา – รายการ “คุณพระช่วย“

น้ำหอม

ผมเคยเดินผ่านร้าน Power King ในสนามบินกับแม่อยู่บ่อยครั้ง แล้วแก็แวะดูน้ำหอมด้วย เห็นมีเขียนชนิดด้วย ก็งงๆว่ามันต่างกันยังไงนะ ผมเชื่อว่า หลายๆคนคงเดินผ่านร้านน้ำหอมบ่อยๆ แต่ใครทราบมั่งว่า น้ำหอมในปัจจุบันนี้มีทั้งหมดกี่ชนิด อะไรมั่ง มาดูกันเลยดีกว่าคับ

“น้ำหอม (Perfume) คือ สารละลายหอมระเหยทำจากน้ำมันกับแอลกอฮอล์ มีกลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้ในธรรมชาติหรือกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมาผสมอยู่ ใช้ทาหรือพ่นตามเสื้อผ้าหรือร่างกาย น้ำหอมจะระเหยออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมชวนดมออกมาด้วย มีหลายกลิ่น บางกลิ่นเกิดจากการนำกลิ่นดอกไม้หลายชนิดมาผสมกัน มีการผลิตบรรจุขวดขายหลายยี่ห้อ อาทิเช่น CK , DKNY , LACOSTE , Ralph Lauren ฯลฯ
ประเภทของน้ำหอม
แบ่งนํ้าหอมออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ ตามระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอม

Eau de Parfum คือนํ้าหอม ที่มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 15-18 %
Eau de Toilette คือนํ้าหอม ที่มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 4-8 %
Eau de Cologne คือนํ้าหอม ที่มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 3-5 %

วิธีการเก็บรักษา
เก็บรักษาที่อุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิห้อง)
ห้ามโดนอุณหภูมิเกิน 30 องศาเซลเซียส แม้จะเป็นเวลาเพียงเล็กน้อย”

แหล่งที่มา – th.wikipedia.org